Server : Apache System : Linux indy02.toastserver.com 3.10.0-962.3.2.lve1.5.85.el7.x86_64 #1 SMP Thu Apr 18 15:18:36 UTC 2024 x86_64 User : palandch ( 1163) PHP Version : 7.1.33 Disable Function : NONE Directory : /home/palandch/www/core/lexicon/th/ |
<?php /** * Setting Thai lexicon topic * * @language th * @package modx * @subpackage lexicon * by Mr.Kittipong Intaboot COE#18,KKU (@kittipongint) * updated 28/01/2012 */ $_lang['area'] = 'พื้นที่'; $_lang['area_authentication'] = 'การรับรองและความปลอดภัย'; $_lang['area_caching'] = 'การเก็บแคช'; $_lang['area_core'] = 'โค้ดของคอร์'; $_lang['area_editor'] = 'ตัวแก้ไขแบบ Rich-Text'; $_lang['area_file'] = 'ระบบไฟล์'; $_lang['area_filter'] = 'กรองด้วยพื้นที่...'; $_lang['area_furls'] = 'Friendly URL'; $_lang['area_gateway'] = 'เกทเวย์'; $_lang['area_language'] = 'Lexicon และภาษา'; $_lang['area_mail'] = 'เมล์'; $_lang['area_manager'] = 'Back-end เมเนเจอร์'; $_lang['area_phpthumb'] = 'phpThumb'; $_lang['area_proxy'] = 'พร็อกซี'; $_lang['area_session'] = 'เซสซันและคุกกี้'; $_lang['area_lexicon_string'] = 'Lexicon เอนทรี'; $_lang['area_lexicon_string_msg'] = 'กรอกคีย์ของ lexicon เอนทรีสำหรับพื้นที่แสดงผลที่นี่ ถ้าไม่มี lexicon เอนทรี ก็จะแสดงแค่พื้นที่ของคีย์<br />พื้นที่ คอร์:<ul><li>การรับรอง</li><li>แคช</li><li>ไฟล์</li><li>furls</li><li>เกทเวย์</li><li>ภาษา</li><li>เมเนเจอร์</li><li>เซสซัน</li><li>ไซต์</li><li>ระบบ</li></ul>'; $_lang['area_site'] = 'ไซต์'; $_lang['area_system'] = 'ระบบและเซิร์ฟเวอร์'; $_lang['areas'] = 'พื้นที่'; $_lang['charset'] = 'รหัสชุดตัวอักษร'; $_lang['country'] = 'ประเทศ'; $_lang['description_desc'] = 'คำอธิบายสั้นๆของการตั้งค่า สามารถเป็นคีย์เอนทรี Lexicon'; $_lang['key_desc'] = 'คีย์สำหรับการตั้งค่า มันจะสามารถใช้ได้ในเนื้อหาของคุณผ่านทาง [[++key]] placeholder'; $_lang['name_desc'] = 'ชื่อของการตั้งค่า นี่สามารถเป็นคีย์เอนทรีของ Lexicon'; $_lang['namespace'] = 'เนมสเปซ'; $_lang['namespace_desc'] = 'เนมสเปซที่การตั้งค่านี้เกี่ยวข้องด้วย หัวข้อ Lexicon ปริยายจะถูกเรียกขึ้นมาสำหรับเนมสเปซนี้เมื่อกำลังตั้งค่า'; $_lang['namespace_filter'] = 'กรองด้วยเนมสเปซ...'; $_lang['search_by_key'] = 'ค้นหาด้วยคีย์...'; $_lang['setting_create'] = 'สร้างการตั้งค่าใหม่'; $_lang['setting_err'] = 'กรุณาตรวจสอบข้อมูลในฟิลด์ตามข้างล่างนี้: '; $_lang['setting_err_ae'] = 'การตั้งค่าด้วยคีย์นี้มีอยู่แล้ว กรุณาระบุชื่อคีย์ใหม่'; $_lang['setting_err_nf'] = 'ไม่พบการตั้งค่า'; $_lang['setting_err_ns'] = 'ไม่ระบุการตั้งค่า'; $_lang['setting_err_remove'] = 'เกิดข้อผิดพลาดขณะที่พยายามลบการตั้งค่า'; $_lang['setting_err_save'] = 'เกิดข้อผิดพลาดขณะที่พยายามบันทึกการตั้งค่า'; $_lang['setting_err_startint'] = 'การตั้งค่าไม่ควรเริ่มต้นด้วยตัวเลข'; $_lang['setting_err_invalid_document'] = 'ไม่มีเอกสารที่มีไอดี %d กรุณาระบุเอกสารที่มีอยู่จริง'; $_lang['setting_remove'] = 'ลบการตั้งค่า'; $_lang['setting_remove_confirm'] = 'คุณแน่ใจว่าต้องการลบการตั้งค่านี้หรือไม่? นี่อาจจะเป็นการสร้างความเสียหายให้กับการติดตั้ง MODX ของคุณ'; $_lang['setting_update'] = 'อัปเดตการตั้งค่า'; $_lang['settings_after_install'] = 'สำหรับการติดตั้งใหม่ คุณต้องตรวจสอบการตั้งค่าที่ป้อนและหากจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง เมื่อคุณทำเสร็จสินแล้วให้กด \'บันทึก\' เพื่ออัปเดตการตั้งค่าลงฐานข้อมูล<br /><br />'; $_lang['settings_desc'] = 'คุณสามารถตั้งการปรับแต่งทั่วไปและการตัวเลือกการตั้งค่าสำหรับส่วนติดต่อผู้ใช้ของ MODX เมเนเจอร์ ตลอดจนการทำงานของเว็บไซต์ ดับเบิ้ลคลิ๊กบนคอลัมน์ของค่าสำหรับการตั้งค่าที่คุณต้องการแก้ไขโดยตรง หรือคลิ๊กขวาบนการตั้งค่าสำหรับตัวเลือกเพิ่มเติม คุณสามารถคลิ๊กที่เครื่องหมาย "+" เพื่อดูคำอธิบาย'; $_lang['settings_furls'] = 'Friendly URLs'; $_lang['settings_misc'] = 'เบ็ตเตล็ด'; $_lang['settings_site'] = 'ไซต์'; $_lang['settings_ui'] = 'อินเทอร์เฟส & ความสามารถ'; $_lang['settings_users'] = 'ผู้ใช้'; $_lang['system_settings'] = 'การตั้งค่าระบบ'; $_lang['usergroup'] = 'กลุ่มผู้ใช้'; // user settings $_lang['setting_access_category_enabled'] = 'ตรวจสอบการเข้าถึงหมวดหมู่'; $_lang['setting_access_category_enabled_desc'] = 'ใช้ตรงนี้เปิดหรือปิดการใช้งานการตรวจสอบ ACL ของหมวดหมู่ (ต่อบริบท) <strong>หมายเหตุ: ถ้าตัวเลือกนี้ถูกตั้งให้เป็นไม่ สิทธ์การเข้าถึงหมวดหมู่ทั้งหมดจะถูกละเว้น!</strong>'; $_lang['setting_access_context_enabled'] = 'ตรวจสอบการเข้าถึงบริบท'; $_lang['setting_access_context_enabled_desc'] = 'ใช้ตรงนี้เปิดหรือปิดการใช้งานการตรวจสอบ ACL ของบริบท <strong>หมายเหตุ: ถ้าตัวเลือกนี้ถูกตั้งให้เป็นไม่ สิทธ์การเข้าถึงบริบททั้งหมดจะถูกละเว้น ห้ามปิดการใช้งานนี้กับ system-wide หรือสำหรับบริบทของเมเนเจอร์ หรือคุณจะปิดการใช้งานการเข้าถึงส่วนติดต่อผู้ใช้ของเมเนเจอร์</strong>'; $_lang['setting_access_resource_group_enabled'] = 'ตรวจสอบการเข้าถึงกลุ่มรีซอร์ส'; $_lang['setting_access_resource_group_enabled_desc'] = 'ใช้ตรงนี้เปิดหรือปิดการใช้งานการตรวจสอบ ACL ของกลุ่มรีซอร์ส (ต่อบริบท) <strong>หมายเหตุ: ถ้าตัวเลือกนี้ถูกตั้งให้เป็นไม่ สิทธ์การเข้าถึงกลุ่มรีซอร์สทั้งหมดจะถูกละเว้น!</strong>'; $_lang['setting_allow_mgr_access'] = 'การเข้าถึงส่วนติดต่อผู้ใช้ของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_allow_mgr_access_desc'] = 'เลือกตัวเลือกนี้เพื่อเปิดหรือปิดการเข้าถึงส่วนติดต่อผู้ใช้ของเมเนเจอร์ <strong>หมายเหตุ: ถ้าตัวเลือกนี้ไม่ถูกตั้ง ผู้ใช้จะถูกนำไปยังหน้าเริ่มต้นเข้าสู่ระบบของเมเนเจอร์หรือหน้าแรกของเว็บไซต์</strong>'; $_lang['setting_failed_login'] = 'ความพยายามในการเข้าสู่ระบบล้มเหลว'; $_lang['setting_failed_login_desc'] = 'คุณสามารถระบุจำนวนครั้งของการพยายามเข้าสู่ระบบล้มเหลว ที่ยอมให้ผู้ใช้ก่อนที่จะถูกบล็อก'; $_lang['setting_login_allowed_days'] = 'วันอนุญาต'; $_lang['setting_login_allowed_days_desc'] = 'เลือกวันที่จะอนุญาตให้ผู้ใช้นี้เข้าสู่ระบบได้'; $_lang['setting_login_allowed_ip'] = 'IP Address ที่อนุญาต'; $_lang['setting_login_allowed_ip_desc'] = 'ใส่ IP address ที่อนุญาตให้ผู้ใช้นี้ลงชื่อเข้าใช้ได้จากตัวนั้น <strong>หมายเหตุ: คั่นหลาย IP address ด้วยจุลภาค (,)</strong>'; $_lang['setting_login_homepage'] = 'หน้าแรกการเข้าสู่ระบบ'; $_lang['setting_login_homepage_desc'] = 'ใส่ไอดีของเอกสารที่คุณต้องการนำผู้ใช้เข้าไป หลังจากที่เขาลงชื่อเข้าสู่ระบบแล้ว <strong>หมายเหตุ: ตรวจให้แน่ใจว่าไอดีที่คุณใส่เป็นของเอกสารที่มีอยู่จริงและถูกเผยแพร่อยู่และผู้ใช้นี้เข้าถึงมันได้!</strong>'; // system settings $_lang['setting_access_policies_version'] = 'เวอร์ชันของเค้าร่างนโยบายการเข้าถึง'; $_lang['setting_access_policies_version_desc'] = 'เวอร์ชันของระบบนโยบายการเข้าถึง ห้ามเปลี่ยนแปลง'; $_lang['setting_allow_forward_across_contexts'] = 'อนุญาตการส่งต่อข้อความข้ามบริบท'; $_lang['setting_allow_forward_across_contexts_desc'] = 'เมื่อตั้งค่าให้เป็นจริง Symlinks และการเรียก modX::sendForward() API จะสามารถส่งต่อการร้องขอไปยังรีซอร์สของบริบทอื่นได้'; $_lang['setting_allow_manager_login_forgot_password'] = 'อนุญาตการลืมรหัสผ่านในหน้าลงชื่อเข้าใช้ของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_allow_manager_login_forgot_password_desc'] = 'การตั้งค่านี้เป็น "ไม่" จะเป็นการปิดความสามารถในการลืมรหัสผ่านบนหน้าลงชื่อเข้าใช้ของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_allow_tags_in_post'] = 'อนุญาตให้ใช้ HTML แท็กในโพสต์ได้'; $_lang['setting_allow_tags_in_post_desc'] = 'ถ้าไม่อนุญาต โพสต์ทั้งหมดภายในเมเนเจอร์จะตัดทุกแท็กออก MODX แนะนำว่าให้ปล่อยการตั้งค่านี้ให้เป็นอนุญาต'; $_lang['setting_archive_with'] = 'บังคับใช้ การบับอัดแบบ PCLZip'; $_lang['setting_archive_with_desc'] = 'ถ้าเลือก จะใช้งาน PCLZip แทนที่ ZipArchive ในนามสกุลของการบีบอัด เปิดการใช้งานถ้าคุณเกิดข้อผิดพลาดในการขยายไฟล์หรือมีปัญหากับการขยายไฟล์ในตัวจัดการแพ็กเกจ'; $_lang['setting_auto_menuindex'] = 'ดัชนีเมนูปริยาย'; $_lang['setting_auto_menuindex_desc'] = 'เลือก \'ใช่\' เพื่อปล่อยให้ดัชนีเมนูเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ'; $_lang['setting_auto_check_pkg_updates'] = 'ตรวจสอบการปรับปรุงแพ็กเกจโดยอัตโนมัติ'; $_lang['setting_auto_check_pkg_updates_desc'] = 'ถ้า \'ใช่\', MODX จะตรวจสอบการปรับปรุงแพ็กเกจสำหรับตัวจัดการแพ็กเกจให้โดยอัตโนมัติ'; $_lang['setting_auto_check_pkg_updates_cache_expire'] = 'เวลาหมดอายุของแคชสำหรับการตรวจสอบการปรับปรุงแพ็กเกจโดยอัตโนมัติ'; $_lang['setting_auto_check_pkg_updates_cache_expire_desc'] = 'จำนวนนาทีที่ตัวจัดการแพ็กเกจจะทำการแคชผลลัพธ์การตรวจสอบการปรับปรุงแพ็กเกจ'; $_lang['setting_allow_multiple_emails'] = 'อนุญาตให้อีเมล์ของผู้ใช้ซ้ำกันได้'; $_lang['setting_allow_multiple_emails_desc'] = 'ถ้าเปิดการใช้งาน เหล่าผู้ใช้สามารถใช้ที่อยู่อีเมล์ร่วมกันได้'; $_lang['setting_automatic_alias'] = 'สร้าง alias โดยอัตโนมัติ'; $_lang['setting_automatic_alias_desc'] = 'เลือก \'ใช่\' เพื่อให้ระบบสร้าง alias ให้โดยอัตโนมัติโดยใช้หัวเรื่องของรีซอร์ส เมื่อทำการบันทึก'; $_lang['setting_base_help_url'] = 'URL ช่วยเหลือหลัก'; $_lang['setting_base_help_url_desc'] = 'URL หลัก ซึ่งเอาไว้สร้างลิงก์ช่วยเหลือที่มุมขวาบนในหน้าเมเนเจอร์'; $_lang['setting_blocked_minutes'] = 'จำนวนนาทีที่บล็อก'; $_lang['setting_blocked_minutes_desc'] = 'คุณสามารถใส่จำนวนนาทีที่จะบล็อกผู้ใช้ เมื่อพวกเขาพยายามเข้าสู่ระบบแต่ล้มเหลวเกินกว่าจำนวนที่กำหนด กรุณาใส่ค่าเป็นตัวเลขเท่านั้น (ไม่มีจุลภาค ช่องว่าง เป็นต้น)'; $_lang['setting_cache_action_map'] = 'เปิดการใช้งานแอ็กชันแม็ปแคช'; $_lang['setting_cache_action_map_desc'] = 'เมื่อถูกเปิดการใช้งาน แอ็กชัน (หรือแผนที่ตัวควบคุม) จะเก็บแคชเพื่อลดระยะเวลาในการโหลดหน้าเว็บไซต์ของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_cache_context_settings'] = 'เปิดการใช้งานแคชการตั้งค่าบริบท'; $_lang['setting_cache_context_settings_desc'] = 'เมื่อถูกเปิดการใช้งาน การตั้งค่าบริบทจะเก็บแคชเพื่อลดระยะเวลาในการโหลด'; $_lang['setting_cache_db'] = 'เปิดการใช้งานแคชฐานข้อมูล'; $_lang['setting_cache_db_desc'] = 'เมื่อถูกเปิดการใช้งาน อ็อบเจกต์และชุดผลลัพธ์ดิบจาการคิวรี SQL จะเก็บแคชเพื่อลดการโหลดจากฐานข้อมูลได้อย่างมาก'; $_lang['setting_cache_db_expires'] = 'เวลาหมดอายุของแคชฐานข้อมูล'; $_lang['setting_cache_db_expires_desc'] = 'ค่านี้ (ในหน่วยวินาที) เป็นการตั้งเวลาของการแคชไฟล์ใหม่จากชุดผลลัพธ์ของฐานข้อมูล'; $_lang['setting_cache_db_session'] = 'เปิดการใช้งานแคชของเซสซันฐานข้อมูล'; $_lang['setting_cache_db_session_desc'] = 'เมื่อเปิดการใช้งานและ cache_db ถูกเปิดการใช้งานด้วย เซสซันฐานข้อมูลจะถูกเก็บแคชในแคช DB result-set'; $_lang['setting_cache_db_session_lifetime'] = 'ระยะเวลาหมดอายุสำหรับแคชของเซสซันฐานข้อมูล'; $_lang['setting_cache_db_session_lifetime_desc'] = 'ตัวแปรนี้ (ในหน่วยวินาที) เป็นการตั้งเวลาการเก็บแคชไฟล์ใหม่สำหรับเซสซันเอนทรีในแคช result-set'; $_lang['setting_cache_default'] = 'สามารถแคชโดยปริยาย'; $_lang['setting_cache_default_desc'] = 'เลือก \'ใช่\' เพื่อทำให้รีซอร์สใหม่สามารถเก็บแคชได้โดยปริยาย'; $_lang['setting_cache_default_err'] = 'กรุณากำหนดว่าคุณต้องการให้เอกสารสามารถเก็บแคชได้โดยปริยายหรือไม่'; $_lang['setting_cache_disabled'] = 'ปิดการใช้งานตัวเลือกการเก็บแคชทั่วเว็บไซต์'; $_lang['setting_cache_disabled_desc'] = 'เลือก \'ใช่\' เพื่อปิดการใช้งานความสามารถในการเก็บแคชของ MODX ทั้งหมด ซึ่ง MODX ไม่แนะนำให้ปิดการใช้งานความสามารถนี้'; $_lang['setting_cache_disabled_err'] = 'กรุณากำหนดว่าคุณต้องการเปิดการใช้งานความสามารถในการเก็บแคชหรือไม่'; $_lang['setting_cache_expires'] = 'ระยะเวลาหมดอายุสำหรับแคชปริยาย'; $_lang['setting_cache_expires_desc'] = 'ตัวแปรนี้ (ในหน่วยวินาที) เป็นการตั้งเวลาของการเก็บแคชไฟล์ใหม่สำหรับแคชปริยาย'; $_lang['setting_cache_format'] = 'รูปแบบการแคชเพื่อใช้งาน'; $_lang['setting_cache_format_desc'] = '0 = PHP, 1 = JSON, 2 = serialize อย่างใดๆอย่างหนึ่งในนี้'; $_lang['setting_cache_handler'] = 'คลาสตัวควบคุมแคช'; $_lang['setting_cache_handler_desc'] = 'ชื่อคลาสของประเภทตัวควบคุมเพื่อใช้ในการเก็บแคช'; $_lang['setting_cache_lang_js'] = 'แคชสตริงของ Lexicon JS'; $_lang['setting_cache_lang_js_desc'] = 'ถ้าตั้งเป็นใช่ นี่จะใช้ตัวควบคุมเซิร์ฟเวอร์เพื่อเก็บแคชของการโหลดสตริง lexicon ลงในจาวาสคริปต์สำหรับส่วนติดต่อผู้ใช้ของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_cache_lexicon_topics'] = 'แคชหัวข้อของ Lexicon'; $_lang['setting_cache_lexicon_topics_desc'] = 'เมื่อเปิดการใช้งาน หัวข้อของ Lexicon ทั้งหมดจะถูกเก็บแคช เพื่อลดระยะเวลาสำหรับฟังก์ชันการทำงานแบบนานาชาติ แต่ MODX แนะว่าควรตั้งเป็น \'ใช่\''; $_lang['setting_cache_noncore_lexicon_topics'] = 'แคชหัวข้อของ Non-Core Lexicon'; $_lang['setting_cache_noncore_lexicon_topics_desc'] = 'เมื่อปิดการใช้งาน หัวข้อของ non-core Lexicon จะไม่ถูกเก็บแคช นี่มีประโยชน์เมื่อคุณพัฒนาส่วนเสริมของคุณเอง'; $_lang['setting_cache_resource'] = 'เปิดการใช้งาน Partial Resource Cache'; $_lang['setting_cache_resource_desc'] = 'การเก็บแคช Partial resource คือการกำหนดค่าโดยรีซอร์สเมื่อความสามารถนี้ถูกเปิดการใช้งาน การปิดการใช้งานความสามารถนี้จะเป็นการปิดทั้งเว็บไซต์'; $_lang['setting_cache_resource_expires'] = 'เวลาหมดอายุของแคช Partial Resource'; $_lang['setting_cache_resource_expires_desc'] = 'ค่านี้ (ในหน่วยวินาที) เป็นการตั้งเวลาในการเก็บแคชไฟล์ใหม่สำหรับ partial Resource'; $_lang['setting_cache_scripts'] = 'เปิดการใช้งานแคชสคริปต์'; $_lang['setting_cache_scripts_desc'] = 'เมื่อเปิดการใช้งาน MODX จะแคชสคริปต์ทั้งหมด (สนิปเพตและปลั๊กอิน) ลงไฟล์เพื่อลดระยะเวลาในการโหลด และ MODX แนะนำว่าให้ตั้งเป็น \'ใช่\''; $_lang['setting_cache_system_settings'] = 'เปิดการใช้งานแคชการตั้งค่าระบบ'; $_lang['setting_cache_system_settings_desc'] = 'เมื่อเปิดการใช้งาน การตั้งค่าระบบจะถูกเก็บแคชเพื่อลดระยะเวลาในการโหลด และ MODX แนะนำว่าควรเปิดการทำงาน'; $_lang['setting_clear_cache_refresh_trees'] = 'รีเฟรชแผนผังในการล้างแคชของเว็บไซต์'; $_lang['setting_clear_cache_refresh_trees_desc'] = 'เมื่อเปิดการใช้งาน จะรีเฟรชแผนผังหลังการล้างแคชของเว็บไซต์'; $_lang['setting_compress_css'] = 'ใช้การบีบอัด CSS'; $_lang['setting_compress_css_desc'] = 'เมื่อเปิดการใช้งาน MODX จะใช้สไตล์ชีทเวอร์ชันบีบอัดในส่วนติดต่อผู้ใช้ของเมเนเจอร์ นี่จะเป็นการลดเวลาการโหลดได้เป็นอย่างมาก ปิดการใช้งานถ้าคุณกำลังแก้ไขเอเลเมนต์ของคอร์'; $_lang['setting_compress_js'] = 'ใช้การบีบอัดจาวาสคริปต์ไลบรารี'; $_lang['setting_compress_js_desc'] = 'เมื่อเปิดการใช้งาน MODX จะใช้จาวาสคริปต์ไลบรารีเวอร์ชันบีบอัดในส่วนติดต่อผู้ใช้ของเมเนเจอร์ นี่จะเป็นการลดเวลาการโหลดได้เป็นอย่างมาก ปิดการใช้งานถ้าคุณกำลังดัดแปลงเอเลเมนต์ของคอร์'; $_lang['setting_compress_js_groups'] = 'ใช้การจัดกลุ่มเมื่อบีบอัดจาวาสคริปต์'; $_lang['setting_compress_js_groups_desc'] = 'จัดกลุ่มจาวาสคริปต์ของคอร์ MODX เมเนเจอร์ด้วยการใช้ minify\'s groupsConfig ตั้งให้เป็นใช่ ถ้าใช้ suhosin หรือ limiting factors อื่นๆ'; $_lang['setting_compress_js_max_files'] = 'เกณฑ์การบีบอัดสูงสุดของไฟล์จาวาสคริปต์'; $_lang['setting_compress_js_max_files_desc'] = 'ตัวเลขสูงสุดของไฟล์จาวาสคริปต์ที่ MODX จะพยายามบีบอัด เมื่อ compress_js ถูกเปิดใช้งาน ตั้งให้เป็นจำนวนน้อยๆถ้าคุณกำลังประสบปัญหากับ Google Minify ในเมเนเจอร์'; $_lang['setting_concat_js'] = 'ใช้การเชื่อมจาวาสคริปต์ไลบรารี'; $_lang['setting_concat_js_desc'] = 'เมื่อเปิดการใช้งาน MODX จะใช้จาวาสคริปต์ไลบรารีเวอร์ชันที่เชื่อมต่อกันในส่วนติดต่อผู้ใช้ของเมเนเจอร์ นี่จะเป็นการลดเวลาการโหลดได้เป็นอย่างมาก ปิดการใช้งานถ้าคุณกำลังดัดแปลงเอเลเมนต์ของคอร์'; $_lang['setting_container_suffix'] = 'คำเติมท้ายตัวบรรจุ'; $_lang['setting_container_suffix_desc'] = 'คำเติมท้ายที่จะเพิ่มใส่รีซอร์สที่ตั้งเป็นตัวบรรจุเมื่อใช้ FURLs'; $_lang['setting_context_tree_sort'] = 'เปิดใช้งานการจัดเรียงของบริบทในแผนผังรีซอร์ส'; $_lang['setting_context_tree_sort_desc'] = 'ถ้าตั้งเป็นใช่ บริบทจะถูกจัดเรียงตามตัวอักษรในแผนผังรีซอร์สฝั่งซ้ายมือ'; $_lang['setting_context_tree_sortby'] = 'จัดเรียงฟิลด์ของบริบทในแผนผังรีซอร์ส'; $_lang['setting_context_tree_sortby_desc'] = 'ฟิลด์ที่เอาไว้สำหรับจัดเรียงบริบทในแผนผังรีซอร์ส ถ้าการจัดเรียงถูกเปิดใช้งาน'; $_lang['setting_context_tree_sortdir'] = 'จัดเรียงทิศทางของบริบทในแผนผังรีซอร์ส'; $_lang['setting_context_tree_sortdir_desc'] = 'ทิศทางสำหรับจัดเรียงบริบทในแผนผังรีซอร์ส ถ้าการจัดเรียงถูกเปิดใช้งาน'; $_lang['setting_cultureKey'] = 'ภาษา'; $_lang['setting_cultureKey_desc'] = 'เลือกภาษาสำหรับบริบทที่ไม่ใช่ของเมเนเจอร์รวมทั้งเว็บไซต์'; $_lang['setting_date_timezone'] = 'โซนเวลาปริยาย'; $_lang['setting_date_timezone_desc'] = 'ควบคุมการตั้งค่าโซนเวลาปริยายสำหรับฟังก์ชัน date ของ PHP ถ้าว่างเปล่าและการตั้งค่า PHP date.timezone ini ไม่ถูกตั้งในสภาพแวดล้อมของคุณจะสมมติว่าเป็น UTC ทันที'; $_lang['setting_debug'] = 'ดีบั๊ก'; $_lang['setting_debug_desc'] = 'ควบคุมการเปิด/ปิดของการดีบั๊กใน MODX และ/หรือตั้งระดับของ PHP error_reporting \'\' = ใช้ error_reporting ปัจจุบัน, \'0\' = ผิด (error_reporting = 0), \'1\' = ถูก (error_reporting = -1) หรือค่า error_reporting ที่ถูกต้องใดๆ (เป็นตัวเลขจำนวนเต็ม)'; $_lang['setting_default_content_type'] = 'ประเภทเนื้อหาปริยาย'; $_lang['setting_default_content_type_desc'] = 'เลือกประเภทเนื้อหาปริยายที่คุณต้องการใช้สำหรับรีซอร์สใหม่ คุณยังสามารถเลือกประเภทเนื้อหาที่แตกต่างกันในรีซอร์สอิดิเตอร์; การตั้งค่านี้เป็นเพียงแค่การเลือกหนึ่งในประเภทเนื้อหาให้กับคุณก่อน'; $_lang['setting_default_duplicate_publish_option'] = 'ตัวเลือกการเผยแพร่การทำสำเนารีซอร์สปริยาย'; $_lang['setting_default_duplicate_publish_option_desc'] = 'ตัวเลือกปริยายเมื่อทำสำเนารีซอร์ส สามารถเป็นได้ทั้ง "ไม่เผยแพร่" เพื่อไม่เผยแพร่ทุกสำเนา, "เผยแพร่" เพื่อเผยแพร่ทุกสำเนา หรือ "สงวน" เพื่อสงวนสถานะการเผยแพร่ตามการทำสำเนารีซอร์ส'; $_lang['setting_default_media_source'] = 'แหล่งข้อมูลมีเดียปริยาย'; $_lang['setting_default_media_source_desc'] = 'แหล่งข้อมูลมีเดียปริยายที่จะเรียกขึ้นมาใช้งาน'; $_lang['setting_default_template'] = 'แม่แบบปริยาย'; $_lang['setting_default_template_desc'] = 'เลือกแม่แบบปริยายที่คุณต้องการใช้สำหรับรีซอร์สที่สร้างขึ้นใหม่ คุณยังสามารถเลือกแม่แบบที่ต่างกันในแต่ละรีซอร์สอิดิเตอร์ การตั้งค่านี้จะเลือกแม่แบบไว้ให้คุณก่อนหนึ่งอัน'; $_lang['setting_default_per_page'] = 'จำนวนต่อหน้าปริยาย'; $_lang['setting_default_per_page_desc'] = 'ค่าตัวเลขปริยายของผลลัพธ์ที่จะแสดงในกริดทั้งหมดของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_editor_css_path'] = 'เส้นทางของไฟล์ CSS'; $_lang['setting_editor_css_path_desc'] = 'ป้อนเส้นทางของไฟล์ CSS ที่คุณต้องการใช้ภายใน richtext อิดิเตอร์ ทางที่ดีที่สุดในการป้อนเส้นทางคือป้อนเริ่มจากเส้นทางหลักของเซิร์ฟเวอร์ ตัวอย่าง: /assets/site/style.css ถ้าคุณไม่ต้องการโหลดสไตล์ชีทสู่ richtext อิดิเตอร์ ปล่อยให้ฟิลด์นี้ว่างไว้'; $_lang['setting_editor_css_selectors'] = 'ตัวเลือก CSS สำหรับอิดิเตอร์'; $_lang['setting_editor_css_selectors_desc'] = 'รายการคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคของตัวเลือก CSS สำหรับ richtext อิดิเตอร์'; $_lang['setting_emailsender'] = 'ลงทะเบียนอีเมล์จากที่อยู่'; $_lang['setting_emailsender_desc'] = 'คุณสามารถระบุที่อยู่อีเมล์ที่จะใช้เมื่อจะส่งชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านให้กับผู้ใช้'; $_lang['setting_emailsender_err'] = 'กรุณากำหนดที่อยู่อีเมล์ของผู้ดูแลระบบเว็บไซต์'; $_lang['setting_emailsubject'] = 'หัวข้อการลงทะเบียนอีเมล์'; $_lang['setting_emailsubject_desc'] = 'หัวเรื่องสำหรับอีเมล์ลงทะเบียนปริยายเมื่อผู้ใช้ลงทะเบียนแล้ว'; $_lang['setting_emailsubject_err'] = 'กรุณากำหนดหัวเรื่องสำหรับอีเมล์การลงทะเบียน'; $_lang['setting_enable_dragdrop'] = 'เปิดการใช้งาน ลาก/วางในแผนผังแหล่งข้อมูล/เอเลเมนต์'; $_lang['setting_enable_dragdrop_desc'] = 'ถ้าปิด จะส่งผลให้การลากและวางในแผนผังแหล่งข้อมูลและเอเลเมนต์ไม่สามารถใช้งานได้'; $_lang['setting_error_page'] = 'หน้าข้อผิดพลาด'; $_lang['setting_error_page_desc'] = 'ป้อนไอดีของเอกสารที่คุณต้องการส่งผู้ใช้ไป ถ้าหากเอกสารที่พวกเขาร้องขอเข้าชมไม่มีอยู่ <strong>หมายเหตุ: ตรวจให้แน่ใจว่าไอดีที่คุณป้อนนี้เป็นของเอกสารที่มีอยู่จริง และมันถูกเผยแพร่!</strong>'; $_lang['setting_error_page_err'] = 'กรุณาระบุไอดีของเอกสารที่เป็นของหน้าข้อผิดพลาด'; $_lang['setting_extension_packages'] = 'แพ็กเกจส่วนขยาย'; $_lang['setting_extension_packages_desc'] = 'เครื่องหมายจุลภาคจะเป็นตัวแบ่งรายการของแพ็กเกจที่จะโหลดขึ้นมาทำงาน โดยมีรูปแบบเป็น packagename:pathtomodel'; $_lang['setting_failed_login_attempts'] = 'พยายามเข้าสู่ระบบล้มเหลว'; $_lang['setting_failed_login_attempts_desc'] = 'จำนวนของการพยายามเข้าสู่ระบบล้มเหลวของผู้ใช้ที่ยอมให้ก่อนที่จะ \'ถูกบล็อก\''; $_lang['setting_fe_editor_lang'] = 'ภาษาของอิดิเตอร์ส่วนหน้า'; $_lang['setting_fe_editor_lang_desc'] = 'เลือกภาษาสำหรับอิดิเตอร์เพื่อใช้เมื่อใช้เป็นอิดิเตอร์ส่วนหน้า'; $_lang['setting_feed_modx_news'] = 'URL ฟีดข่าวของ MODX'; $_lang['setting_feed_modx_news_desc'] = 'ตั้ง URL ของ RSS ฟีด สำหรับข่าวของ MODX ที่แผงควบคุมของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_feed_modx_news_enabled'] = 'ฟีดข่าวของ MODX ถูกเปิดการใช้งาน'; $_lang['setting_feed_modx_news_enabled_desc'] = 'ถ้า \'ไม่\' MODX จะซ่อนฟีดข่าวไม่ให้แสดงในส่วนการต้อนรับของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_feed_modx_security'] = 'URL ฟีดการแจ้งเตือนความปลอดภัยของ MODX'; $_lang['setting_feed_modx_security_desc'] = 'ตั้ง URL สำหรับฟีด RSS ของแผงการแจ้งเตือนความปลอดภัยของ MODX ในเมเนจอร์'; $_lang['setting_feed_modx_security_enabled'] = 'ฟีดความปลอดภัยของ MODX ถูกเปิดการใช้งาน'; $_lang['setting_feed_modx_security_enabled_desc'] = 'ถ้า \'ไม่\' MODX จะซ่อนฟีดความปลอดภัยในส่วนต้อนรับของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_filemanager_path'] = 'เส้นทางตัวจัดการไฟล์ (เลิกใช้แล้ว)'; $_lang['setting_filemanager_path_desc'] = 'เลิกใช้แล้ว - เปลี่ยนเป็นใช้แหล่งข้อมูลมีเดียแทน ซึ่งบ่อยครั้งที่ IIS เติมการตั้งค่า document_root ไม่ถูกต้อง โดยถูกใช้โดยตัวจัดการไฟล์เพื่อกำหนดว่าคุณสามารถดูอะไรได้ ถ้าคุณกำลังมีปัญหาในการใช้ตัวจัดการไฟล์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเส้นทางนี้ชี้ไปยังรากของการติดตั้ง MODX ของคุณ'; $_lang['setting_filemanager_path_relative'] = 'เป็นเส้นทางแบบสัมพัทธ์ของตัวจัดการไฟล์หรือไม่? (เลิกใช้แล้ว)'; $_lang['setting_filemanager_path_relative_desc'] = 'เลิกใช้แล้ว - เปลี่ยนเป็นใช้แหล่งข้อมูลมีเดียแทน ซึ่งถ้าคุณใช้การตั้ง filemanager_path เป็นแบบสัมพัทธ์ให้ MODX base_path ให้ตั้งค่านี้เป็นใช่ ถ้า filemanager_path ของคุณอยู่นอก docroot ให้ตั้งค่านี้เป็นไม่'; $_lang['setting_filemanager_url'] = 'Url ของตัวจัดการไฟล์'; $_lang['setting_filemanager_url_desc'] = 'เป็นตัวเลือกเสริม ตั้งค่านี้ถ้าคุณต้องการตั้ง URL ที่ชัดเจนในการเข้าถึงไฟล์ในตัวจัดการไฟล์ของ MODX ว่ามาจากไหน(มีประโยชน์ถ้าคุณต้องเปลี่ยน filemanager_path เป็นเส้นทางที่อยู่นอก MODX webroot) โปรดตรวจดูให้แน่ใจว่านี่คือ web-accessible URL ของการตั้งค่าของ filemanager_path ถ้าปล่อยส่วนนี้ว่างไว้ MODX จะลองคำนวณค่าให้อัตโนมัติ'; $_lang['setting_filemanager_url_relative'] = 'เป็น URL แบบสัมพัทธ์ของตัวจัดการไฟล์หรือไม่? (เลิกใช้แล้ว)'; $_lang['setting_filemanager_url_relative_desc'] = 'เลิกใช้แล้ว - เปลี่ยนเป็นใช้แหล่งข้อมูลมีเดียแทน ซึ่งถ้าการตั้งค่า filemanager_urlของคุณเป็นแบบสัมพัทธ์ให้ MODX base_url ให้ตั้งค่านี้เป็นใช่ ถ้า filemanager_url ของคุณอยู่นอก webroot หลัก ให้ตั้งค่านี้เป็นไม่'; $_lang['setting_forgot_login_email'] = 'ลืมอีเมล์การลงชื่อเข้าใช้'; $_lang['setting_forgot_login_email_desc'] = 'แม่แบบสำหรับอีเมล์ที่จะถูกส่งเมื่อผู้ใช้งานลืมชื่อผู้ใช้และ/หรือรหัสผ่านของเขาเอง'; $_lang['setting_forward_merge_excludes'] = 'sendForward Exclude Fields on Merge'; $_lang['setting_forward_merge_excludes_desc'] = 'Symlink ผสานค่าฟิลด์ที่ไม่ว่างผ่านค่าในรีซอร์สเป้าหมาย; ใช้รายการคั่นด้วยจุลภาคนี้ในการป้องกันการรวมฟิลด์ที่ระบุจากการถูกแทนที่โดย Symlink'; $_lang['setting_friendly_alias_lowercase_only'] = 'กำหนดใช้ alias ด้วยตัวพิมพ์เล็ก'; $_lang['setting_friendly_alias_lowercase_only_desc'] = 'กำหนดว่าจะอนุญาตให้ใช้ได้แค่ตัวพิมพ์เล็กใน alias ของแหล่งข้อมูล'; $_lang['setting_friendly_alias_max_length'] = 'กำหนดขนาดสูงสุดของ alias'; $_lang['setting_friendly_alias_max_length_desc'] = 'ถ้าค่ามากกว่าศูนย์จะเป็นขนาดสูงสุดของอักขระที่อนุญาตในการตั้ง alias ของแหล่งข้อมูล ถ้าใส่ศูนย์จะเป็นการตั้งว่าไม่จำกัด'; $_lang['setting_friendly_alias_restrict_chars'] = 'กำหนดขั้นตอนการจำกัดลักษณะของ alias'; $_lang['setting_friendly_alias_restrict_chars_desc'] = 'ขั้นตอนนี้ใช้ในการจำกัดอักขระที่ใช้ใน alias ของแหล่งข้อมูล "pattern" อนุญาตให้ RegEx pattern ถูกใช้บริการ, "legal" อนุญาตให้อักขระ URL ที่ถูกต้องใดๆก็ได้ "alpha" อนุญาตเฉพาะตัวอักษรที่เป็นพยัญชนะและ "alphanumeric" อนุญาตเฉพาะตัวอักษรที่เป็นตัวเลข'; $_lang['setting_friendly_alias_restrict_chars_pattern'] = 'กำหนดรูปแบบการจำกัดอักขระของ alias'; $_lang['setting_friendly_alias_restrict_chars_pattern_desc'] = 'รูปแบบ RegEx ที่ถูกต้องสำหรับการจำกัดอักขระที่ใช้ใน alias ของแหล่งข้อมูล'; $_lang['setting_friendly_alias_strip_element_tags'] = 'กำหนดแท็ก Alias Strip Element'; $_lang['setting_friendly_alias_strip_element_tags_desc'] = 'กำหนดว่าการแท็กเอเลเมนต์ควรจะไม่ถูกปกปิดจาก alias ของแหล่งข้อมูล'; $_lang['setting_friendly_alias_translit'] = 'กำหนดการทับศัพท์ของ alias'; $_lang['setting_friendly_alias_translit_desc'] = 'ขั้นตอนของการทับศัพท์เพื่อใช้ใน alias ที่ระบุของแหล่งข้อมูล การปล่อยว่างไว้หรือ "ไม่มี" เป็นค่าปริยายซึ่งจะข้ามการทับศัพท์ ส่วนค่าที่เป็นบวกอื่นๆคือ "iconv" (ถ้าใช้ได้) หรือตั้งชื่อตารางการทับศัพท์ตามที่มีให้ในคลาสให้บริการการทับศัพท์'; $_lang['setting_friendly_alias_translit_class'] = 'กำหนดการทับศัพท์ของคลาสให้บริการ'; $_lang['setting_friendly_alias_translit_class_desc'] = 'คลาสให้บริการเสริมเพื่อให้บริการตั้งชื่อบริการการทับศัพท์สำหรับการผลิต/กรอง FURL Alias'; $_lang['setting_friendly_alias_translit_class_path'] = 'เส้นทางคลาสบริการทับศัพท์ของ FURL Alias'; $_lang['setting_friendly_alias_translit_class_path_desc'] = 'ที่ตั้งแพ็กเกจต้นแบบซึ่งคลาสบริการทับศัพท์ของ FURL Alias จะถูกเรียกขึ้นมาทำงานจากที่นั่น'; $_lang['setting_friendly_alias_trim_chars'] = 'กำหนดการตัดอักขระของ alias'; $_lang['setting_friendly_alias_trim_chars_desc'] = 'อักขระที่จะถูกตัดออกจากส่วนท้ายของ alias ที่ถูกใช้งาน'; $_lang['setting_friendly_alias_word_delimiter'] = 'ตัวคั่นคำของ alias'; $_lang['setting_friendly_alias_word_delimiter_desc'] = 'ตัวคั่นคำที่อยากใช้สำหรับคั่น alias'; $_lang['setting_friendly_alias_word_delimiters'] = 'ตัวคั่น alias'; $_lang['setting_friendly_alias_word_delimiters_desc'] = 'อักขระซึ่งจะเป็นตัวทำหน้าที่เป็นตัวแทนของตัวคั่นคำเมื่อประมวลผล alias อักขระนี้จะถูกแปลงและรวบรวมเป็นตัวคั่นคำของ alias'; $_lang['setting_friendly_urls'] = 'ใช้ Friendly URL'; $_lang['setting_friendly_urls_desc'] = 'นี่อนุญาตให้คุณใช้ search engine friendly URLs กับ MODX โปรดทราบว่านี่จะทำงานเมื่อการติดตั้ง MODX บน Apache เท่านั้น และคุณจำเป็นต้องเขียนไฟล์ .htaccess เพื่อให้มันทำงาน ดูไฟล์ .htaccess ที่รวมมาให้ในการแจกจ่ายจากโฮสต์เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม'; $_lang['setting_friendly_urls_err'] = 'กรุณากำหนดว่าคุณต้องการใช้ friendly URL หรือไม่'; $_lang['setting_global_duplicate_uri_check'] = 'ตรวจสอบว่าการทำสำเนา URI ข้ามบริบททั้งหมด'; $_lang['setting_global_duplicate_uri_check_desc'] = 'เลือก \'ใช่\' เพื่อให้การตรวจสอบการทำสำเนา URI รวมเอาบริบททั้งหมดมาทำการค้นหา มิฉะนั้น เฉพาะบริบทที่รีซอร์สกำลังถูกบันทึกอยู่เท่านั้นที่จะถูกตรวจสอบ'; $_lang['setting_hidemenu_default'] = 'ซ่อนจากเมนูปริยาย'; $_lang['setting_hidemenu_default_desc'] = 'เลือก \'ใช่\' เพื่อให้รีซอร์สใหม่ทั้งหมดถูกซ่อนจากเมนูโดยปริยาย'; $_lang['setting_inline_help'] = 'แสดงข้อความช่วยเหลือแบบอินไลน์สำหรับฟิลด์'; $_lang['setting_inline_help_desc'] = 'ถ้า \'ใช่\' ฟิลด์จะแสดงข้อความช่วยเหลือของพวกมันตรงด้านล่างของฟิลด์ ถ้า \'ไม่\' ฟิลด์ทั้งหมดจะมีความช่วยเหลือแบบทูลทิป'; $_lang['setting_link_tag_scheme'] = 'โครงร่างการสร้าง URL'; $_lang['setting_link_tag_scheme_desc'] = 'โครงร่างการสร้าง URL สำหรับแท็ก [[~id]] ตัวเลือกที่ใช้งานได้: <a href="http://api.modxcms.com/modx/modX.html#makeUrl">http://api.modxcms.com/modx/modX.html#makeUrl</a>'; $_lang['setting_locale'] = 'ท้องถิ่น'; $_lang['setting_locale_desc'] = 'ตั้งท้องถิ่นสำหรับระบบ ปล่อยว่างไว้เพื่อใช้ค่าปริยาย ดูที่ <a href="http://php.net/setlocale" target="_blank">เอกสารประกอบ PHP</a> สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม'; $_lang['setting_log_level'] = 'ระดับการเก็บบันทึก'; $_lang['setting_log_level_desc'] = 'ระดับการเก็บบันทึกปริยาย; ระดับต่ำสุด ข้อความจำนวนน้อยจะถูกเก็บบันทึก ตัวเลือกที่ใช้งานได้: 0 (ร้ายแรง), 1 (เกิดข้อผิดพลาด), 2 (แจ้งเตือน), 3 (ข้อมูล) และ 4 (ดีบั๊ก)'; $_lang['setting_log_target'] = 'เป้าหมายการเก็บบันทึก'; $_lang['setting_log_target_desc'] = 'เป้าหมายการเก็บบันทึกปริยายที่บันทึกข้อความจะถูกเขียนลง ตัวเลือกที่ใช้งานได้: \'ไฟล์\', \'HTML\' หรือ \'ECHO\' ค่าปริยายคือ \'ไฟล์\' ถ้าไม่มีการระบุ'; $_lang['setting_mail_charset'] = 'รหัสชุดตัวอักษรของจดหมาย'; $_lang['setting_mail_charset_desc'] = 'รหัสชุดตัวอักษรสำหรับอีเมล์ เช่น \'iso-8859-1\' หรือ \'UTF-8\''; $_lang['setting_mail_encoding'] = 'การเข้ารหัสจดหมาย'; $_lang['setting_mail_encoding_desc'] = 'ตั้งการเข้ารหัสของข้อความ เหล่าตัวเลือกคือ "8bit", "7bit", "binary", "base64", และ "quoted-printable".'; $_lang['setting_mail_use_smtp'] = 'ใช้ SMTP'; $_lang['setting_mail_use_smtp_desc'] = 'ถ้าใช่ MODX จะพยายามใช้ในฟังก์ชันจดหมาย'; $_lang['setting_mail_smtp_auth'] = 'การรับรอง SMTP'; $_lang['setting_mail_smtp_auth_desc'] = 'ตั้งการรับรอง SMTP ใช้การตั้งค่า mail_smtp_user และ mail_smtp_password'; $_lang['setting_mail_smtp_helo'] = 'ข้อความ SMTP Helo'; $_lang['setting_mail_smtp_helo_desc'] = 'ตั้ง SMTP HELO ของข้อความ (เริ่มต้นให้ hostname)'; $_lang['setting_mail_smtp_hosts'] = 'โฮสต์ SMTP'; $_lang['setting_mail_smtp_hosts_desc'] = 'ตั้งค่าโฮสต์ SMTP ทุกๆโฮสต์ต้องถูกแยกด้วยเครื่องหมายอัฒภาค(semicolon) คุณยังสามารถระบุความแตกต่างของพอร์ตสำหรับแต่ละโฮสต์ด้วยการใช้รูปแบบนี้: [hostname:port] (เช่น "smtp1.example.com:25;smtp2.example.com") โฮสต์จะลองตามลำดับไป'; $_lang['setting_mail_smtp_keepalive'] = 'SMTP Keep-Alive'; $_lang['setting_mail_smtp_keepalive_desc'] = 'ป้องกันการเชื่อมต่อ SMTP จากการปิดหลังจากทุกอีเมลล์ถูกส่ง เราไม่แนะนำ'; $_lang['setting_mail_smtp_pass'] = 'รหัสผ่าน SMTP'; $_lang['setting_mail_smtp_pass_desc'] = 'รหัสผ่านที่รับรองกับ SMTP against'; $_lang['setting_mail_smtp_port'] = 'พอร์ต SMTP'; $_lang['setting_mail_smtp_port_desc'] = 'ตั้งค่าปริยายให้กับพอร์ตของ SMTP เซิร์ฟเวอร์'; $_lang['setting_mail_smtp_prefix'] = 'คำนำหน้าการเชื่อมต่อ SMTP'; $_lang['setting_mail_smtp_prefix_desc'] = 'ตั้งคำนำหน้าการเชื่อมต่อ เหล่าตัวเลือกคือ "" "ssl" หรือ "tls"'; $_lang['setting_mail_smtp_single_to'] = 'SMTP Single To'; $_lang['setting_mail_smtp_single_to_desc'] = 'มีความสามารถในการมีฟิลด์"ถึง" ที่มีกระบวนการเฉพาะแต่ละอีเมล์ แทนที่การส่งถึงที่อยู่'; $_lang['setting_mail_smtp_timeout'] = 'SMTP Timeout'; $_lang['setting_mail_smtp_timeout_desc'] = 'ตั้ง timeout ของ SMTP server ในหน่วยวินาที ฟังก์ชันนี้จะไม่ทำงานใน win32 servers'; $_lang['setting_mail_smtp_user'] = 'ผู้ใช้ของ SMTP'; $_lang['setting_mail_smtp_user_desc'] = 'ผู้ใช้ที่รับรองโดย SMTP against'; $_lang['setting_manager_direction'] = 'ทิศทางข้อความของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_manager_direction_desc'] = 'เลือกทิศทางที่ข้อความจะถูกแสดงผลในเมเนเจอร์ ซ้ายไปขวาหรือขวาไปซ้าย'; $_lang['setting_manager_date_format'] = 'รูปแบบวันที่ของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_manager_date_format_desc'] = 'สตริงรูปแบบในรูปแบบขแง PHP date() สำหรับแสดงในเมเนเจอร์'; $_lang['setting_manager_favicon_url'] = 'URL ของเมเนเจอร์ Favicon'; $_lang['setting_manager_favicon_url_desc'] = 'ถ้าตั้งค่า จะเรียกใช้ URL นี้มาเป็น favicon สำหรับ MODX เมเนเจอร์ และต้องเป็น URL แบบสัมพัทธ์ไปยังไดเรกทอรี manager/ หรือเป็น URL แบบเต็ม'; $_lang['setting_manager_html5_cache'] = 'ใช้การเก็บแคชภายในของ HTML5 ในเมเนเจอร์'; $_lang['setting_manager_html5_cache_desc'] = 'ขั้นทดลอง ใช้การเก็บแคชภายในของ HTML5 สำหรับเมเนเจอร์ แนะนำให้ใช้เฉพาะถ้าใช้เมเนเจอร์กับเบราว์เซอร์สมัยใหม่เท่านั้น'; $_lang['setting_manager_js_cache_file_locking'] = 'เปิดใช้งานการป้องกันไฟล์สำหรับแคชของเมเนเจอร์ JS/CSS'; $_lang['setting_manager_js_cache_file_locking_desc'] = 'การป้องกันไฟล์แคช ตั้งให้เป็นไม่ถ้าระบบไฟล์เป็น NFS'; $_lang['setting_manager_js_cache_max_age'] = 'อายุแคชของการบีบอัดเมเนเจอร์ JS/CSS'; $_lang['setting_manager_js_cache_max_age_desc'] = 'อายุสูงสุดของแคชเบราว์เซอร์ของการบีบอัดเมเนเจอร์ CSS/JS ในหน่วยวินาที หลังจากระยะนี้ เบราว์เซอร์จะส่ง GET ตามเงื่อนไขอื่นๆ ใช้ระยะเวลานานๆเข้าไว้เพื่อปริมาณการใช้งานต่ำ'; $_lang['setting_manager_js_document_root'] = 'รูทเอกสารของการบีบอัดเมเนเจอร์ JS/CSS'; $_lang['setting_manager_js_document_root_desc'] = 'ถ้าเซิร์ฟเวอร์ของคุณไม่ได้จัดการตัวแปร DOCUMENT_ROOT ของเซิร์ฟเวอร์ ตั้งค่ามันให้ชัดเจนตรงนี้เพื่อเปิดใช้งานการบีบอัดเมเนเจอร์ CSS/JS ห้ามเปลี่ยนแปลงเว้นแต่ว่าคุณรู้ว่ากำลังทำอะไร'; $_lang['setting_manager_js_zlib_output_compression'] = 'เปิดใช้งานการบีบอัดเอาต์พุต zlib สำหรับเมเนเจอร์ JS/CSS'; $_lang['setting_manager_js_zlib_output_compression_desc'] = 'เพื่อเปิดใช้งานการบีบอัดเอาต์พุต zlib สำหรับบีบอัด CSS/JS ในเมเนเจอร์ ห้ามเปิดใช้ค่านี้เว้นแต่ว่าคุณมั่นใจว่าการตั้งค่าตัวแปร zlib.output_compression ของ PHP สามารถตั้งเป็น 1 ได้ แต่ MODX แนะนำว่าให้ปล่อยให้มันปิดไว้'; $_lang['setting_manager_lang_attribute'] = 'คุณสมบัติภาษา HTML และ XML ของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_manager_lang_attribute_desc'] = 'ป้อนภาษาที่เหมาะสมกับภาษาที่คุณเลือกในเมเนเจอร์ ต้องแน่ใจว่าเบราว์เซอร์ของคุณสามารถแสดงเนื้อหาในรูปแบบที่ดีที่สุดสำหรับคุณได้'; $_lang['setting_manager_language'] = 'ภาษาของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_manager_language_desc'] = 'เลือกภาษาสำหรับตัวจัดการเนื้อหาของ MODX'; $_lang['setting_manager_login_url_alternate'] = 'URL สำรองของการลงชื่อเข้าใช้ระบบเมเนเจอร์'; $_lang['setting_manager_login_url_alternate_desc'] = 'URL สำรองเพื่อส่งผู้ใช้ที่ไม่ได้รับอนุญาตไปเมื่อพวกเขาจำเป็นต้องลงชื่อเข้าใช้ระบบเมเนเจอร์ แบบฟอร์มการลงชื่อเข้าใช้ต้องลงชื่อผู้ใช้ในบริบท "mgr" เพื่อให้ทำงานได้'; $_lang['setting_manager_login_start'] = 'เริ่มต้นเข้าสู่ระบบของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_manager_login_start_desc'] = 'ป้อนไอดีของเอกสารที่คุณต้องการนำผู้ใช้ไปหลังจากที่เขาได้ลงชื่อเข้าสู่ระบบเมเนเจอร์ <strong>หมายเหตุ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไอดีที่คุณป้อนเป็นของเอกสารที่มีอยู่และถูกเผยแพร่อยู่และสามารถเข้าถึงได้โดยผู้ใช้นี้!</strong>'; $_lang['setting_manager_theme'] = 'ธีมของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_manager_theme_desc'] = 'เลือกธีมสำหรับตัวจัดการเนื้อหา'; $_lang['setting_manager_time_format'] = 'รูปแบบเวลาของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_manager_time_format_desc'] = 'สตริงรูปแบบในรูปแบบ PHP date() สำหรับการตั้งค่าเวลาที่จะแสดงในเมเนเจอร์'; $_lang['setting_manager_use_tabs'] = 'ใช้แท็บในโครงของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_manager_use_tabs_desc'] = 'ถ้าเป็นจริง เมเนเจอร์จะใช้แท็บสำหรับแสดงผลหน้าต่างเนื้อหา ไม่เช่นนั้นจะใช้พอร์ทัล'; $_lang['setting_modRequest.class'] = 'คลาสตัวควบคุมการร้องขอ'; $_lang['setting_modRequest.class_desc'] = ''; $_lang['setting_modx_charset'] = 'การเข้ารหัสตัวอักษร'; $_lang['setting_modx_charset_desc'] = 'กรุณาเลือกการเข้ารหัวตัวอักษรที่คุณต้องการใช้ในเมเนเจอร์ โปรดทราบว่า MODX ถูกทดสอบกับการเข้ารหัสเหล่านี้มาแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ภาษาส่วนมากใช้ UTF-8'; $_lang['setting_new_file_permissions'] = 'สิทธิ์การใช้งานไฟล์ใหม่'; $_lang['setting_new_file_permissions_desc'] = 'เมื่อทำการอัปโหลดไฟล์ใหม่ในตัวจัดการไฟล์ซึ่งจะพยายามเปลี่ยนสิทธิ์การใช้งานไฟล์เหล่านั้นเป็นตามที่คุณป้อนในนี้ อาจจะไม่ทำงานบนบางการติดตั้ง เช่น IIS ซึ่งในกรณีนี้คุณจำเป็นต้องทำการกำหนดสิทธิ์เอง'; $_lang['setting_new_folder_permissions'] = 'สิทธิ์การใช้งานโฟลเดอร์ใหม่'; $_lang['setting_new_folder_permissions_desc'] = 'เมื่อทำการอัปโหลดโฟลเดอร์ใหม่ในตัวจัดการไฟล์ซึ่งจะพยายามเปลี่ยนสิทธิ์การใช้งานโฟลเดอร์เหล่านั้นเป็นตามที่คุณป้อนในนี้ อาจจะไม่ทำงานบนบางการติดตั้ง เช่น IIS ซึ่งในกรณีนี้คุณจำเป็นต้องทำการกำหนดสิทธิ์เอง'; $_lang['setting_password_generated_length'] = 'ความยาวรหัสผ่านที่สร้างเองอัตโนมัติ'; $_lang['setting_password_generated_length_desc'] = 'ความยาวของรหัสผ่านที่สร้างเองอัตโนมัติสำหรับผู้ใช้'; $_lang['setting_password_min_length'] = 'ความยาวรหัสผ่านขั้นต่ำ'; $_lang['setting_password_min_length_desc'] = 'ความยาวขั้นต่ำของรหัสผ่านสำหรับผู้ใช้'; $_lang['setting_principal_targets'] = 'เป้าหมายของ ACL เพื่อจะเรียกใช้งาน'; $_lang['setting_principal_targets_desc'] = 'กำหนดเป้าหมายของ ACL ที่จะเรียกใช้งานสำหรับผู้ใช้ของ MODX'; $_lang['setting_proxy_auth_type'] = 'ประเภทการรับรองความถูกต้องของพร็อกซี'; $_lang['setting_proxy_auth_type_desc'] = 'รองรับทั้ง BASIC และ NTLM'; $_lang['setting_proxy_host'] = 'พร็อกซีโฮสต์'; $_lang['setting_proxy_host_desc'] = 'ถ้าเซิร์ฟเวอร์ของคุณกำลังใช้พร็อกซี ตั้ง hostname ที่นี่เพื่อเปิดการใช้งานในความสามารถของ MODX ที่อาจจะจำเป็นในการใช้พร็อกซี เช่น ตัวจัดการแพ็กเกจ'; $_lang['setting_proxy_password'] = 'รหัสผ่านของพร็อกซี'; $_lang['setting_proxy_password_desc'] = 'รหัสผ่านที่ต้องใช้เพื่อตรวจสอบกับพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ของคุณ'; $_lang['setting_proxy_port'] = 'พร็อกซีพอร์ต'; $_lang['setting_proxy_port_desc'] = 'พอร์ตสำหรับพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ของคุณ'; $_lang['setting_proxy_username'] = 'ชื่อผู้ใช้ของพร็อกซี'; $_lang['setting_proxy_username_desc'] = 'ชื่อผู้ใช้เพื่อตรวจสอบพร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ของคุณ'; $_lang['setting_phpthumb_allow_src_above_docroot'] = 'อนุญาตให้แหล่งข้อมูล phpThumb อยู่เหนือรูทเอกสาร'; $_lang['setting_phpthumb_allow_src_above_docroot_desc'] = 'บ่งชี้ว่าเส้นทางแหล่งข้อมูลถูกอนุญาตให้อยู่นอกรูทเอกสารหรือไม่ นี่จะมีประโยชน์สำหรับการใช้งานแบบหลายบริบทกับโฮสต์เสมือนหลายๆอัน'; $_lang['setting_phpthumb_cache_maxage'] = 'อายุสูงสุดของแคช phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_cache_maxage_desc'] = 'ลบ cached thumbnails ที่ไม่ถูกเข้าถึงในเวลามากกว่า X วัน'; $_lang['setting_phpthumb_cache_maxsize'] = 'ขนาดสูงสุดของแคช phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_cache_maxsize_desc'] = 'ลบ thumbnails ที่ถูกเข้าถึงล่าสุดที่จำนวนน้อยสุด เมื่อแคชโตขึ้นใหญ่กว่า X megabytes'; $_lang['setting_phpthumb_cache_maxfiles'] = 'ไฟล์สูงสุดของแคช phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_cache_maxfiles_desc'] = 'ลบ thumbnails ที่ถูกเข้าถึงล่าสุดที่จำนวนน้อยสุด เมื่อมีจำนวนมากกว่า X ไฟล์'; $_lang['setting_phpthumb_cache_source_enabled'] = 'ไฟล์แคชแหล่งข้อมูลของ phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_cache_source_enabled_desc'] = 'ทำการแคชไฟล์แหล่งข้อมูลไม่ว่ามันจะถูกโหลดหรือไม่ก็ตาม เราแนะนำว่าควรปิด'; $_lang['setting_phpthumb_document_root'] = 'รูทเอกสาร PHPThumb'; $_lang['setting_phpthumb_document_root_desc'] = 'ตั้งค่านี้ถ้าคุณกำลังประสพปัญหากับตัวแปร DOCUMENT_ROOT ของเซิร์ฟเวอร์ หรือได้รับข้อผิดพลาดจาก OutputThumbnail หรือ !is_resource ตั้งค่ามันเป็นเส้นทางแบบเต็มของรูทเอกสารที่คุณต้องการใช้ ถ้าค่าตรงนี้ว่าง MODX จะใช้ตัวแปร DOCUMENT_ROOT ของเซิร์ฟเวอร์'; $_lang['setting_phpthumb_error_bgcolor'] = 'สีพื้นหลังของข้อผิดพลาด phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_error_bgcolor_desc'] = 'ค่า hex โดยไม่ต้องมี # ใช้เป็นตัวระบุสีพื้นหลังสำหรับผลลัพธ์ของข้อผิดพลาด phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_error_fontsize'] = 'ขนาดตัวอักษรของข้อผิดพลาด phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_error_fontsize_desc'] = 'ค่า em ใช้เป็นขนาดตัวอักษรสำหรับข้อความที่ปรากฏในผลลัพธ์ข้อผิดพลาด phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_error_textcolor'] = 'สีตัวอักษรของข้อผิดพลาด phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_error_textcolor_desc'] = 'ค่า hex โดยไม่ต้องมี # ใช้เป็นตัวระบุสีตัวอักษรสำหรับข้อคามที่ปรากฏในผลลัพธ์ข้อผิดพลาด phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_far'] = 'บังคับอัตราส่วนมุมมองของ phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_far_desc'] = 'ตั้งค่าปริยายสำหรับ phpThumb เมื่อใช้ใน MODX ค่าปริยายเป็น C คือบังคับให้อัตราส่วนมุมมองไปอยู่ตรงกลาง'; $_lang['setting_phpthumb_imagemagick_path'] = 'เส้นทางของ phpThumb ImageMagick'; $_lang['setting_phpthumb_imagemagick_path_desc'] = 'ตัวเลือกเสริม ตั้งเส้นทางสำรองของ ImageMagick ตรงนี้สำหรับผลิตรูปขนาดย่อกับ phpThumb ถ้าไม่ได้อยู่ในค่าปริยายของ PHP'; $_lang['setting_phpthumb_nohotlink_enabled'] = 'phpThumb Hotlinking ถูกปิดการใช้งาน'; $_lang['setting_phpthumb_nohotlink_enabled_desc'] = 'รีโมตเซิร์ฟเวอร์ถูกอนุญาตในพารามิเตอร์แหล่งข้อมูล เว้นแต่ว่าคุณปิดใช้งาน hotlinking ใน phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_nohotlink_erase_image'] = 'phpThumb Hotlinking ลบรูปภาพ'; $_lang['setting_phpthumb_nohotlink_erase_image_desc'] = 'บ่งชี้ว่ารูปภาพที่ถูกสร้างจากรีโมตเซิร์ฟเวอร์สามารถถูกลบออกได้เมื่อไม่อนุญาต'; $_lang['setting_phpthumb_nohotlink_text_message'] = 'ข้อความไม่อนุญาตของ phpThumb Hotlinking'; $_lang['setting_phpthumb_nohotlink_text_message_desc'] = 'ข้อความที่ใช้แสดงแทนรูปขนาดย่อเมื่อความพยายามของ hotlinking ถูกปฏิเสธ'; $_lang['setting_phpthumb_nohotlink_valid_domains'] = 'phpThumb Hotlinking โดเมนไม่ถูกต้อง'; $_lang['setting_phpthumb_nohotlink_valid_domains_desc'] = 'รายการที่ถูกคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคของโฮสต์เนมที่ถูกต้องและใช้ได้ใน URL ของแหล่งข้อมูล'; $_lang['setting_phpthumb_nooffsitelink_enabled'] = 'phpThumb Offsite Linking ถูกปิดการใช้งาน'; $_lang['setting_phpthumb_nooffsitelink_enabled_desc'] = 'ปิดการใช้งานความสามารถสำหรับผู้อื่นเพื่อใช้ phpThumb ในการแสดงรูปภาพบนเว็บไซต์ของตัวเอง'; $_lang['setting_phpthumb_nooffsitelink_erase_image'] = 'phpThumb Offsite Linking ลบรูปภาพ'; $_lang['setting_phpthumb_nooffsitelink_erase_image_desc'] = 'บ่งชี้ว่ารูปภาพที่ถูกเชื่อมโยงมาจากรีโมตเซิร์ฟเวอร์สามารถถูกลบออกได้เมื่อไม่อนุญาต'; $_lang['setting_phpthumb_nooffsitelink_require_refer'] = 'phpThumb Offsite Linking ต้องการการอ้างอิง'; $_lang['setting_phpthumb_nooffsitelink_require_refer_desc'] = 'ถ้าเปิดการใช้งาน ความพยายามของ offsite linking ใดๆจะถูกปฏิเสธโดยปราศจากส่วนหัวของการอ้างอิงที่ถูกต้อง'; $_lang['setting_phpthumb_nooffsitelink_text_message'] = 'ข้อความไม่อนุญาตของ phpThumb Offsite Linking'; $_lang['setting_phpthumb_nooffsitelink_text_message_desc'] = 'ข้อความที่จะแสดงแทนรูปขนาดย่อเมื่อความพยายามของ offsite linking ถูกปฏิเสธ'; $_lang['setting_phpthumb_nooffsitelink_valid_domains'] = 'phpThumb Offsite Linking โดเมนไม่ถูกต้อง'; $_lang['setting_phpthumb_nooffsitelink_valid_domains_desc'] = 'รายการที่ถูกคั่นด้วยเครื่องหมายจุลภาคของโฮสต์เนมที่เป็นการอ้างอิงที่ถูกต้องและใช้ได้สำหรับ offsite linking'; $_lang['setting_phpthumb_nooffsitelink_watermark_src'] = 'phpThumb Offsite Linking แหล่งข้อมูลลายน้ำ'; $_lang['setting_phpthumb_nooffsitelink_watermark_src_desc'] = 'ตัวเลือกเสริม เส้นทางระบบไฟล์ที่ถูกต้องที่จะเอาไฟล์มาใช้เป็นแหล่งข้อมูลลายน้ำ เมื่อรูปของคุณถูกเรนเดอร์ offsite โดย phpThumb'; $_lang['setting_phpthumb_zoomcrop'] = 'phpThumb ขยาย-ตัด'; $_lang['setting_phpthumb_zoomcrop_desc'] = 'ค่าปริยายของการตั้งค่าขยาย-ตัดสำหรับ phpThumb เมื่อใช้ใน MODX ค่าปริยายเป็น 0 คือค่าที่ต้องการให้ตัดหรือขยาย'; $_lang['setting_publish_default'] = 'เผยแพร่โดยปริยาย'; $_lang['setting_publish_default_desc'] = 'เลือก \'ใช่\' เพื่อทำให้รีซอร์สใหม่ถูกเผยแพร่โดยปริยาย'; $_lang['setting_publish_default_err'] = 'กรุณากำหนดว่าคุณต้องการให้เอกสารถูกเผยแพร่โดยปริยายหรือไม่'; $_lang['setting_rb_base_dir'] = 'เส้นทางรีซอร์ส'; $_lang['setting_rb_base_dir_desc'] = 'ป้อนเส้นทางที่แน่นอนไปยังไดเรกทอรีของรีซอร์ส การตั้งค่านี้มักจะถูกสร้างขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ถ้าหากคุณกำลังใช้ IIS MODX อาจจะไม่สามารถทำงานกับเส้นทางที่ชี้ไปยังตัวมันเอง ในกรณีนี้คุณสามารถป้อน URL ไปยังโฟลเดอร์รูปภาพที่นี่ (URL เหมือนกับที่คุณป้อนใน Internet Explorer) <strong>หมายเหตุ:</strong> ไดเรกทอรีของรีซอร์สต้องมีโฟลเดอร์ย่อย รูปภาพ ไฟล์ แฟลช และมีเดียอยู่ภายในเพื่อที่จะให้ฟังก์ชันของรีซอร์สเบราว์เซอร์ทำงานได้อย่างถูกต้อง'; $_lang['setting_rb_base_dir_err'] = 'กรุณากำหนดเส้นทางหลักของรีซอร์สเบราว์เซอร์'; $_lang['setting_rb_base_dir_err_invalid'] = 'ไดเรกทอรีของรีซอร์สนี้อาจจะไม่มีอยู่จริงหรือไม่สามารถเข้าถึงได้ กรุณากำหนดไดเรกทอรีที่ถูกต้องหรือปรับสิทธิ์การใช้งานของไดเรกทอรีนี้'; $_lang['setting_rb_base_url'] = 'URL ของรีซอร์ส'; $_lang['setting_rb_base_url_desc'] = 'ป้อนเส้นทางเสมือนไปถึงไดเรกทอรีของรีซอร์ส การตั้งค่านี้มักจะถูกทำขึ้นเอง ถ้าหากคุณกำลังใช้ IIS MODX อาจจะไม่สามารถทำงานกับ URL บนตัวมันเอง เป็นสาเหตุให้รีซอร์สเบราว์เซอร์แสดงข้อผิดพลาด ในกรณีนี้คุณสามารถป้อน URL ไปยังโฟลเดอร์รูปภาพที่นี่ (URL เหมือนกับที่คุณป้อนใน Internet Explorer)'; $_lang['setting_rb_base_url_err'] = 'กรุณากำหนดรีซอร์สเบราว์เซอร์ URL'; $_lang['setting_request_controller'] = 'Request Controller Filename'; $_lang['setting_request_controller_desc'] = 'ชื่อไฟล์ของตัวควบคุม main request จาก MODX ที่ถูกโหลด ผู้ใช้ส่วนใหญ่สามารถปล่อยไว้ให้เป็น index.php'; $_lang['setting_request_method_strict'] = 'วิธีการร้องขอที่เข้มงวด'; $_lang['setting_request_method_strict_desc'] = 'ถ้าเปิดการใช้งาน การร้องขอผ่านทางพารามิเตอร์ไอดีของการร้องขอจะถูกเพิกเฉยพร้อมทั้งเปิดใช้งาน FURLs และการร้องขอเหล่านั้นผ่านทางพารามิเตอร์ Alias ของการร้องขอจะถูกเพิกเฉยโดยปราศจากการเปิดใช้ FURLs'; $_lang['setting_request_param_alias'] = 'พารามิเตอร์ของ Request Alias'; $_lang['setting_request_param_alias_desc'] = 'ชื่อของพารามิเตอร์ GET เพื่อระบุ alias ของรีซอร์สเมื่อเปลี่ยนเส้นทางด้วย FURL'; $_lang['setting_request_param_id'] = 'พารามิเตอร์ของ Request ไอดี'; $_lang['setting_request_param_id_desc'] = 'ชื่อของพารามิเตอร์ GET เพื่อระบุไอดีของรีซอร์ส เมื่อไม่ได้ใช้ FURL'; $_lang['setting_resolve_hostnames'] = 'แก้ hostnames'; $_lang['setting_resolve_hostnames_desc'] = 'คุณต้องการให้ MODX ลองแก้ hostnames ของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณหรือไม่? การแก้ hostnames อาจสร้างการโหลดที่พิเศษบางอย่างของเซิร์ฟเวอร์ ถึงแม้ว่าผู้เยี่ยมชมจะไม่ได้รับแจ้งอะไรเลยก็ตาม'; $_lang['setting_resource_tree_node_name'] = 'ฟิลด์โหนดของแผนผังรีซอร์ส'; $_lang['setting_resource_tree_node_name_desc'] = 'ระบุฟิลด์รีซอร์สเพื่อใช้เมื่อแสดงโหนดในแผนผังรีซอร์ส ค่าปริยายคือชื่อหน้าเว็บเพจ อย่างไรก็ตาม ฟิลด์รีซอร์สใดๆก็สามารถใช้งานได้ เช่น ชื่อเมนู, alias, ชื่อเรื่องแบบยาว เป็นต้น'; $_lang['setting_resource_tree_node_tooltip'] = 'ฟิลด์ทูลทิปของแผนผังรีซอร์ส'; $_lang['setting_resource_tree_node_tooltip_desc'] = 'ระบุฟิลด์รีซอร์สเพื่อใช้เมื่อแสดงโหนดในแผนผังรีซอร์ส ฟิลด์รีซอร์สใดๆก็สามารถใช้งานได้ เช่น ชื่อเมนู, alias, ชื่อเรื่องแบบยาว เป็นต้น ถ้าหากว่าง จะเป็นการใช้ชื่อเรื่องแบบยาวพร้อมด้วยคำอธิบายที่อยู่ด้านล่าง'; $_lang['setting_richtext_default'] = 'Richtext โดยปริยาย'; $_lang['setting_richtext_default_desc'] = 'เลือก \'ใช่\' เพื่อทำให้รีซอร์สใหม่ทั้งหมดใช้ Richtext อิดิเตอร์โดยปริยาย'; $_lang['setting_search_default'] = 'ค้นหาได้โดยปริยาย'; $_lang['setting_search_default_desc'] = 'เลือก \'ใช่\' เพื่อทำให้รีซอร์สใหม่ทั้งหมดสามารถค้นหาได้โดยปริยาย'; $_lang['setting_search_default_err'] = 'กรุณาระบุว่าคุณต้องการให้เอกสารสามารถค้นหาได้โดยปริยายหรือไม่'; $_lang['setting_server_offset_time'] = 'เวลาชดเชยของเซิร์ฟเวอร์'; $_lang['setting_server_offset_time_desc'] = 'เลือกจำนวนชั่วโมงที่แตกต่างระหว่างเวลาของคุณกับเวลาของเซิร์ฟเวอร์'; $_lang['setting_server_protocol'] = 'ประเภทเซิร์ฟเวอร์'; $_lang['setting_server_protocol_desc'] = 'ถ้าเว็บไซต์ของคุณอยู่บนการเชื่อมแบบ https กรุณาระบุลงที่นี่ด้วย'; $_lang['setting_server_protocol_err'] = 'กรุณาระบุว่าเว็บไซต์ของคุณเป็นเว็บที่มีความปลอดภัยเชื่อถือได้'; $_lang['setting_server_protocol_http'] = 'http'; $_lang['setting_server_protocol_https'] = 'https'; $_lang['setting_session_cookie_domain'] = 'Session Cookie Domain'; $_lang['setting_session_cookie_domain_desc'] = 'ใช้การตั้งค่านี้เพื่อกำหนด session cookie domain'; $_lang['setting_session_cookie_lifetime'] = 'Session Cookie Lifetime'; $_lang['setting_session_cookie_lifetime_desc'] = 'ใช้การตั้งค่านี้เพื่อกำหนด session cookie lifetime ในหน่วยวินาที นี่ใช้เพื่อตั้ง lifetime ของ client session cookie เมื่อพวกเขาเลือกตัวเลือก \'จำฉันไว้\' ในตอนเข้าสู่ระบบ'; $_lang['setting_session_cookie_path'] = 'เส้นทางของ Session Cookie'; $_lang['setting_session_cookie_path_desc'] = 'ใช้การตั้งค่านี้เพื่อกำหนดเส้นทางของ cookie สำหรับการระบุ session cookies ของเว็บไซต์'; $_lang['setting_session_cookie_secure'] = 'การรักษาความปลอดภัย Session Cookie'; $_lang['setting_session_cookie_secure_desc'] = 'เปิดการใช้งานการตั้งค่านี้เพื่อใช้การรักษาความปลอดภัย session cookies'; $_lang['setting_session_gc_maxlifetime'] = 'Session Garbage Collector Max Lifetime'; $_lang['setting_session_gc_maxlifetime_desc'] = 'อนุญาตการปรับแต่งของ session.gc_maxlifetime ของการตั้งค่า PHP ini เมื่อใช้ \'modSessionHandler\''; $_lang['setting_session_handler_class'] = 'Session Handler Classname'; $_lang['setting_session_handler_class_desc'] = 'สำหรับวาระจัดการฐานข้อมูลใช้ \'modSessionHandler\' ปล่อยว่างไว้เพื่อใช้การจัดการวาระของ PHP แบบมาตรฐาน'; $_lang['setting_session_name'] = 'ชื่อวาระ'; $_lang['setting_session_name_desc'] = 'ใช้การตั้งค่านี้เพื่อกำหนดชื่อวาระสำหรับใช้ใน MODX'; $_lang['setting_settings_version'] = 'เวอร์ชันการตั้งค่า'; $_lang['setting_settings_version_desc'] = 'เวอร์ชัน MODX ที่ติดตั้งในปัจจุบัน'; $_lang['setting_settings_distro'] = 'ตั้งค่าการแจกจ่าย'; $_lang['setting_settings_distro_desc'] = 'การแจกจ่ายที่ติดตั้งในปัจจุบันของ MODX'; $_lang['setting_set_header'] = 'ตั้ง HTTP Headers'; $_lang['setting_set_header_desc'] = 'เมื่อเปิดการใช้งาน MODX จะพยายามตั้ง HTTP headers สำหรับรีซอร์ส'; $_lang['setting_show_tv_categories_header'] = 'แสดงส่วนหัวของแท็บ "หมวดหมู่" กับตัวแปรแม่แบบ'; $_lang['setting_show_tv_categories_header_desc'] = 'ถ้า "ใช่" MODX จะแสดงส่วนหัวของ "หมวดหมู่" ด้านบนแท็บหมวดหมู่แรก เมื่อทำการแก้ไขตัวแปรแม่แบบในรีซอร์ส'; $_lang['setting_signupemail_message'] = 'ลงทะเบียนอีเมล์'; $_lang['setting_signupemail_message_desc'] = 'คุณสามารถตั้งข้อความที่จะส่งถึงเหล่าผู้ใช้เมื่อคุณสร้างบัญชีให้กับพวกเขาและให้ MODX ส่งอีเมล์ที่บรรจุชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านให้กับพวกเขา <br /><strong>หมายเหตุ:</strong> placeholder ดังต่อไปนี้จะถูกแทนที่โดยตัวจัดการเนื้อหาเมื่อข้อความถูกส่ง: <br /><br />[[+sname]] - ชื่อเว็บไซต์ของคุณ <br />[[+saddr]] - ที่อยู่อีเมล์ของเว็บไซต์คุณ <br />[[+surl]] - URL ของเว็บไซต์ <br />[[+uid]] - ชื่อผู้ใช้หรือไอดี <br />[[+pwd]] - รหัสผ่าน <br />[[+ufn]] - ชื่อจริงของผู้ใช้ <br /><br /><strong>การปล่อย [[+uid]] และ [[+pwd]] ให้ว่างในอีเมล์หรือลบชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านจะทำให้ไม่สามารถส่งอีเมล์ได้และผู้ใช้จะไม่รู้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของพวกเขา!</strong>'; $_lang['setting_signupemail_message_default'] = 'สวัสดี [[+uid]] \n\nนี่คือรายละเอียดการเข้าสู่ระบบของคุณสำหรับตัวจัดการเนื้อหาของ [[+sname]] :\n\nชื่อผู้ใช้: [[+uid]]\nรหัสผ่าน: [[+pwd]]\n\nเมื่อคุณเข้าสู่ตัวจัดการเนื้อหา ([[+surl]]) แล้ว คุณจะสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านของคุณได้\n\nด้วยความเคารพ\nผู้ดูแลระบบเว็บไซต์'; $_lang['setting_site_name'] = 'ชื่อเว็บไซต์'; $_lang['setting_site_name_desc'] = 'ใส่ชื่อของเว็บไซต์คุณที่นี่'; $_lang['setting_site_name_err'] = 'กรุณาใส่ชื่อเว็บไซต์ของคุณ'; $_lang['setting_site_start'] = 'เริ่มต้นเว็บไซต์'; $_lang['setting_site_start_desc'] = 'ใส่ไอดีของรีซอร์สที่คุณต้องการใช้เป็นหน้าแรกที่นี่ <strong>หมายเหตุ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไอดีที่คุณใส่นี้เป็นของรีซอร์สที่มีอยู่จริง และมันถูกเผยแพร่อยู่!</strong>'; $_lang['setting_site_start_err'] = 'กรุณาระบุไอดีของรีซอร์สที่คุณต้องการให้เป็นหน้าแรก'; $_lang['setting_site_status'] = 'สถานะเว็บไซต์'; $_lang['setting_site_status_desc'] = 'เลือก \'ใช่\' เพื่อจะเผยแพร่เว็บไซต์ของคุณ ถ้าคุณเลือก \'ไม่\' ผู้เยี่ยมชมจะเห็น \'ข้อความเว็บไซต์ไม่พร้อมใช้งาน\' และจะไม่สามารถเข้าชมเนื้อหาเว็บไซต์ได้'; $_lang['setting_site_status_err'] = 'กรุณาเลือกว่าสถานะเว็บไซต์ว่าออนไลน์หรือไม่ ออนไลน์(ใช่) หรือ ออฟไลน์(ไม่)'; $_lang['setting_site_unavailable_message'] = 'ข้อความเว็บไซต์ไม่พร้อมใช้งาน'; $_lang['setting_site_unavailable_message_desc'] = 'ข้อความที่แสดงเมื่อเว็บไซต์ออฟไลน์หรือถ้าเกิดข้อผิดพลาด <strong>หมายเหตุ: ข้อความนี้จะถูกแสดงก็ต่อเมื่อตัวเลือกหน้าเว็บไซต์ไม่พร้อมใช้งาน ไม่ได้ถูกตั้ง</strong>'; $_lang['setting_site_unavailable_page'] = 'หน้าเว็บไซต์ไม่พร้อมใช้งาน'; $_lang['setting_site_unavailable_page_desc'] = 'ป้อนไอดีของรีซอร์สที่คุณต้องการใช้เป็นหน้าออฟไลน์ที่นี่ <strong>หมายเหตุ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไอดีที่คุณป้อนเป็นของรซอร์สที่มีอยู่จริงและถูกเผยแพร่และสามารถเข้าชมได้โดยสาธารณะชนทั่วไป!</strong>'; $_lang['setting_site_unavailable_page_err'] = 'กรุณาระบุไอดีเอกสารสำหรับหน้าเว็บไซต์ไม่พร้อมใช้งาน'; $_lang['setting_strip_image_paths'] = 'เขียนเส้นทางเบราว์เซอร์ใหม่หรือไม่?'; $_lang['setting_strip_image_paths_desc'] = 'ถ้าตั้งเป็น \'ไม่\' MODX จะเขียนไฟล์เบราว์เซอร์ของรีซอร์สบน src (รูปภาพ ไฟล์ แฟลช และอื่นๆ) เป็น URL สัมพัทธ์ โดย URL สัมพัทธ์ จะเป็นประโยชน์ถ้าคุณต้องการย้ายการติดตั้ง MODX เช่น จากเว็บไซต์การแสดงไปเป็นเว็บไซต์การผลิต ถ้าคุณไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร จะเป็นผลดีที่คุณจะปล่อยให้มันถูกตั้งเป็น \'ใช่\''; $_lang['setting_symlink_merge_fields'] = 'ผสานฟิลด์รีซอร์สใน Symlinks'; $_lang['setting_symlink_merge_fields_desc'] = 'ถ้าตั้งค่าเป็นใช่ จะผสานฟิลด์ที่ไม่ว่างกับรีซอร์สเป้าหมายให้โดยอัตโนมัติเมื่อการส่งต่อข้อความใช้ Symlinks'; $_lang['setting_topmenu_show_descriptions'] = 'แสดงคำอธิยบายในท็อปเมนู'; $_lang['setting_topmenu_show_descriptions_desc'] = 'ถ้าตั้งเป็น \'ไม่\' MODX จะซ่อนคำอธิบายของไอเท็มของท็อปเมนูในส่วนของเมเนเจอร์'; $_lang['setting_tree_default_sort'] = 'ฟิลด์จัดเรียงปริยายของแผนผังรีซอร์ส'; $_lang['setting_tree_default_sort_desc'] = 'ฟิลด์จัดเรียงปริยายสำหรับแผนผังรีซอร์สเมื่อเรียกใช้เมเนเจอร์'; $_lang['setting_tree_root_id'] = 'แผนผังไอดีของรูท'; $_lang['setting_tree_root_id_desc'] = 'ตั้งไอดีที่ถูกต้องของรีซอร์สเพื่อเริ่มแผนผังด้านซ้ายมือข้างล่างที่โหนดเป็นรูท ผู้ใช้จะสามารถเห็นรีซอร์สที่เป็นลูกของรีซอร์สที่ระบุเท่านั้น'; $_lang['setting_tvs_below_content'] = 'ย้ายตัวแปรแม่แบบไปไว้ข้างล่างเนื้อหา'; $_lang['setting_tvs_below_content_desc'] = 'ตั้งค่านี้เป็นใช่เพื่อย้ายตัวแปรแม่แบบไปไว้ข้างล่างเนื้อหาเมื่อแก้ไขรีซอร์ส'; $_lang['setting_ui_debug_mode'] = 'ส่วนติดต่อผู้ใช้ในโหมดดีบั๊ก'; $_lang['setting_ui_debug_mode_desc'] = 'ตั้งค่านี้เป็นใช่เพื่อแสดงข้อความผลลัพธ์การดีบั๊กเมื่อใช้ส่วนติดต่อผู้ใช้สำหรับธีมปริยายของเมเนเจอร์ คุณต้องใช้เบราว์เซอร์ที่สนับสนุน console.log ด้วย'; $_lang['setting_udperms_allowroot'] = 'อนุญาตรูท'; $_lang['setting_udperms_allowroot_desc'] = 'คุณต้องการอนุญาตให้ผู้ใช้สร้างรีซอร์สใหม่บนรูทของเว็บไซต์หรือไม่? '; $_lang['setting_unauthorized_page'] = 'หน้าเว็บไซต์ไม่ได้รับอนุญาต'; $_lang['setting_unauthorized_page_desc'] = 'ป้อนไอดีของรีซอร์สที่คุณต้องการนำผู้ใช้ไปถ้าพวกเขาร้องขอชมรีซอร์สที่ถูกรักษาความปลอดภัยหรือไม่อนุญาต <strong>หมายเหตุ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไอดีที่คุณป้อนเป็นของรีซอร์สที่มีอยู่จริงและถูกเผยแพร่และสามารถเข้าชมได้โดยสาธารณะชนทั่วไป!</strong>'; $_lang['setting_unauthorized_page_err'] = 'กรุณาระบุไอดีของรีซอร์สสำหรับหน้าเว็บไซต์ไม่ได้รับอนุญาต'; $_lang['setting_upload_files'] = 'ประเภทไฟล์ที่สามารถอัปโหลดได้'; $_lang['setting_upload_files_desc'] = 'คุณสามารถป้อนรายการของไฟล์ที่สามารถอัปโหลดไปยัง \'assets/files/\' โดยใช้ตัวจัดการรีซอร์ส กรุณาป้อนนามสกุลของประเภทไฟล์คั่นด้วยจุลภาค'; $_lang['setting_upload_flash'] = 'ประเภทแฟลชที่สามารถอัปโหลดได้'; $_lang['setting_upload_flash_desc'] = 'คุณสามารถป้อนรายการของไฟล์ที่สามารถอัปโหลดไปยัง \'assets/flash/\' โดยใช้ตัวจัดการรีซอร์ส กรุณาป้อนนามสกุลของประเภทแฟลชคั่นด้วยจุลภาค'; $_lang['setting_upload_images'] = 'ประเภทรูปภาพที่สามารถอัปโหลดได้'; $_lang['setting_upload_images_desc'] = 'คุณสามารถป้อนรายการของไฟล์ที่สามารถอัปโหลดไปยัง \'assets/images/\' โดยใช้ตัวจัดการรีซอร์ส กรุณาป้อนนามสกุลของประเภทรูปภาพคั่นด้วยจุลภาค'; $_lang['setting_upload_maxsize'] = 'ขนาดอัปโหลดสูงสุด'; $_lang['setting_upload_maxsize_desc'] = 'ป้อนขนาดไฟล์สูงสุดที่สามารถอัปโหลดผ่านทางตัวจัดการไฟล์ได้ ขนาดการอัปโหลดไฟล์ต้องป้อนในหน่วย byte <strong>หมายเหตุ: ไฟล์ขนาดใหญ่อาจใช้เวลาในการอัปโหลดนานมาก!</strong>'; $_lang['setting_upload_media'] = 'ประเภทมีเดียที่สามารถอัปโหลดได้'; $_lang['setting_upload_media_desc'] = 'คุณสามารถป้อนรายการของไฟล์ที่สามารถอัปโหลดไปยัง \'assets/media/\' โดยใช้ตัวจัดการรีซอร์ส กรุณาป้อนนามสกุลของประเภทมีเดียคั่นด้วยจุลภาค'; $_lang['setting_use_alias_path'] = 'ใช้เส้นทาง Friendly Alias'; $_lang['setting_use_alias_path_desc'] = 'การตั้งค่าตัวเลือกนี้เป็น \'ใช่\' จะเป็นการแสดงเส้นทางแบบเต็มของรีซอร์ส ถ้ารีซอร์สมี alias ตัวอย่าง ถ้ารีซอร์สมี alias เรียกว่า \'child\' อยู่ในตัวบรรจุรีซอร์สที่มี alias เรียกว่า \'parent\' ดังนั้นเส้นทางเต็มของ alias ไปยังรีซอร์สจะแสดงได้เป็น \'/parent/child.html\'<br /><strong>หมายเหตุ: เมื่อตั้งค่าตัวเลือกนี้เป็น \'ใช่\' (เปิดใช้เส้นทาง alias) การอ้างอิงถึงไอเท็ม (เช่น รูปภาพ css javascripts เป็นต้น) จะใช้เส้นทางสัมพัทธ์: เช่น \'/assets/images\' ไม่ใช่ \'assets/images\' โดยการทำอย่างนี้จะเป็นการป้องกันเบราว์เซอร์ (หรือเว็บเซิร์ฟเวอร์) จากการเติมท้ายเส้นทางสัมพัทธ์ของเส้นทาง alias</strong>'; $_lang['setting_use_browser'] = 'เปิดการใช้งานรีซอร์สเบราว์เซอร์'; $_lang['setting_use_browser_desc'] = 'เลือกใช่เพื่อเปิดการใช้งานรีซอร์สเบราว์เซอร์ ซึ่งจะเป็นการอนุญาตให้ผู้ใช้ของคุณค้นหาและอัปโหลดรีซอร์ส เช่น รูปภาพ แฟลช และไฟล์มีเดียบนเซิร์ฟเวอร์ได้'; $_lang['setting_use_browser_err'] = 'กรุณากำหนดว่าคุณต้องการใช้รีซอร์สเบราว์เซอร์หรือไม่'; $_lang['setting_use_editor'] = 'เปิดการใช้งาน Rich Text อิดิเตอร์'; $_lang['setting_use_editor_desc'] = 'คุณต้องการเปิดการใช้งาน rich text อิดิเตอร์หรือไม่? ถ้าคุณมีความสุขและพอใจในการเขียน HTML ธรรมดาอยู่แล้ว คุณก็สามารถปิดการตั้งค่านี้ โปรดทราบว่าการตั้งค่านี้จะประยุกต์ใช้กับเอกสารและผู้ใช้ทั้งหมด!'; $_lang['setting_use_editor_err'] = 'กรุณากำหนดว่าคุณต้องการใช้ Rich Text อิดิเตอร์'; $_lang['setting_use_multibyte'] = 'ใช้ Multibyte Extension'; $_lang['setting_use_multibyte_desc'] = 'ตั้งให้เป็นจริงถ้าคุณต้องการใช้ mbstring extension สำหรับ multibyte characters ในการติดตั้ง MODX ของคุณ ตั้งให้เป็นจริงเท่านั้นถ้าคุณมีการติดตั้ง mbstring PHP extension'; $_lang['setting_use_weblink_target'] = 'ใช้เป้าหมายของ WebLink'; $_lang['setting_use_weblink_target_desc'] = 'ตั้งให้เป็นจริงถ้าคุณต้องการให้มีแท็กลิงก์ของ MODX และ makeUrl() สร้างลิงก์เป็น URL เป้าหมายสำหรับ WebLinks มิฉะนั้น URL ภายในของ MODX จะถูกสร้างโดยแท็กลิงก์และวิธีการ makeUrl()'; $_lang['setting_webpwdreminder_message'] = 'อีเมล์แจ้งเตือนผ่านเว็บไซต์'; $_lang['setting_webpwdreminder_message_desc'] = 'ป้อนข้อความที่จะส่งให้กับเหล่าผู้ใช้เว็บไซต์ของคุณเมื่อใดก็ตามที่พวกเขาร้องขอรหัสผ่านใหม่ผ่านทางอีเมล์ ตัวจัดการเนื้อหาจะส่งอีเมล์ที่บรรจุรหัสผ่านใหม่ของพวกเขาและข้อมูลการเปิดใช้อีเมล์ <br /><strong>หมายเหตุ:</strong> placeholder ดังต่อไปนี้จะถูกแทนที่โดยตัวจัดการเนื้อหาเมื่อข้อความถูกส่ง: <br /><br />[[+sname]] - ชื่อเว็บไซต์ของคุณ <br />[[+saddr]] - ที่อยู่อีเมล์ของเว็บไซต์คุณ <br />[[+surl]] - URL ของเว็บไซต์ <br />[[+uid]] - ชื่อผู้ใช้หรือไอดี <br />[[+pwd]] - รหัสผ่าน <br />[[+ufn]] - ชื่อจริงของผู้ใช้ <br /><br /><strong>การปล่อย [[+uid]] และ [[+pwd]] ให้ว่างในอีเมล์หรือลบชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านจะทำให้ไม่สามารถส่งอีเมล์ได้และผู้ใช้จะไม่รู้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของพวกเขา!</strong>'; $_lang['setting_webpwdreminder_message_default'] = 'สวัสดี [[+uid]]\n\nเพื่อเปิดการใช้งานรหัสผ่านใหม่ของคุณ คลิ๊กลิงก์ดังต่อไปนี้:\n\n[[+surl]]\n\nถ้าประสบความสำเร็จ คุณจะสามารถใช้รหัสผ่านดังต่อไปนี้เพื่อเข้าสู่ระบบ:\n\nรหัสผ่าน:[[+pwd]]\n\nถ้าคุณไม่ได้ร้องขออีเมล์นี้ กรุณาละเว้นมัน\n\nด้วยความเคารพ\nผู้ดูแลระบบเว็บไซต์'; $_lang['setting_websignupemail_message'] = 'ลงทะเบียนอีเมล์ผ่านเว็บไซต์'; $_lang['setting_websignupemail_message_desc'] = 'คุณสามารถตั้งข้อความที่จะส่งไปยังผู้ใช้เมื่อคุณสร้างบัญชีเว็บให้กับพวกเขาและให้ตัวจัดการเนื้อหาส่งอีเมล์ที่บรรจุชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านแก่พวกเขา <br /><strong>หมายเหตุ:</strong> placeholder ดังต่อไปนี้จะถูกแทนที่โดยตัวจัดการเนื้อหาเมื่อข้อความถูกส่ง: <br /><br />[[+sname]] - ชื่อเว็บไซต์ของคุณ <br />[[+saddr]] - ที่อยู่อีเมล์ของเว็บไซต์คุณ <br />[[+surl]] - URL ของเว็บไซต์ <br />[[+uid]] - ชื่อผู้ใช้หรือไอดี <br />[[+pwd]] - รหัสผ่าน <br />[[+ufn]] - ชื่อจริงของผู้ใช้ <br /><br /><strong>การปล่อย [[+uid]] และ [[+pwd]] ให้ว่างในอีเมล์หรือลบชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านจะทำให้ไม่สามารถส่งอีเมล์ได้และผู้ใช้จะไม่รู้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของพวกเขา!</strong>'; $_lang['setting_websignupemail_message_default'] = 'สวัสดี [[+uid]] \n\nนี่คือรายละเอียดการเข้าสู่ระบบสำหรับ [[+sname]]:\n\nชื่อผู้ใช้: [[+uid]]\nรหัสผ่าน: [[+pwd]]\n\nครั้งหนึ่งคุณเคยเข้าสู่ [[+sname]] ([[+surl]]) คุณสามารถเปลี่ยนรหัสผ่านของคุณ\n\nด้วยความเคารพ\nผู้แดระบบเว็บไซต์'; $_lang['setting_welcome_screen'] = 'แสดงหน้าจอต้อนรับ'; $_lang['setting_welcome_screen_desc'] = 'ถ้าตั้งไว้เป็นจริง หน้าจอต้อนรับจะแสดงตอนการเรียกสำเร็จครั้งต่อไปของหน้าต้อนรับ และจะไม่แสดงอีกหลังจากนั้น'; $_lang['setting_welcome_screen_url'] = 'URL ของหน้าจอต้อนรับ'; $_lang['setting_welcome_screen_url_desc'] = 'URL สำหรับหน้าจอต้อนรับที่จะเรียกขึ้นมาตอนแรกที่โหลด MODX Revolution'; $_lang['setting_which_editor'] = 'อิดิเตอร์ที่ใช้'; $_lang['setting_which_editor_desc'] = 'คุณสามารถเลือก Rich Text อิดิเตอร์อันที่คุณต้องการใช้ คุณสามารถดาวน์โหลดและติดตั้ง Rich Text อิดิเตอร์เพิ่มเติมจากตัวจัดการแพ็กเกจ'; $_lang['setting_which_element_editor'] = 'อิดิเตอร์ที่ใช้สำหรับเอเลเมนต์'; $_lang['setting_which_element_editor_desc'] = 'คุณสามารถเลือก Rich Text อิดิเตอร์ อันที่คุณต้องการใช้เมื่อทำการแก้ไขเอเลเมนต์ คุณสามารถดาวน์โหลดและติดตั้ง Rich Text อิดิเตอร์เพิ่มเติมจากตัวจัดการแพ็กเกจ'; $_lang['setting_xhtml_urls'] = 'XHTML URLs'; $_lang['setting_xhtml_urls_desc'] = 'ถ้าตั้งเป็นจริง URL ทั้งหมดที่ถูกผลิตโดย MODX จะเป็น XHTML-compliant รวมทั้งรหัสอักขระของเครื่องหมาย ampersand ด้วย';